เช็กก่อนสมัคร! งาน Full Time และ Part Time ต่างกันยังไงบ้าง?
งาน Full Time และ Part Time ต่างกันยังไง

             สำหรับคนวัยทำงานแล้ว ทุกคนล้วนทราบดีว่าตัวเองมีหน้าที่ต้องทำงานเพื่อแลกกับเงินค่าจ้างทั้งรายวันและรายเดือน แล้วนำเงินเหล่านั้นมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับตนเองและคนในครอบครัว แต่เงื่อนไขชีวิตและความจำเป็นของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนอาจเลือกงาน Full Time ที่ระบุรายได้ในแต่ละเดือนเอาไว้อย่างแน่นอน ในขณะที่บางคนอาจเลือกงาน Part Time ที่ได้รับค่าจ้างเป็นชั่วโมง แล้วงานทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร ตัวเราเองเหมาะกับงานแบบไหนกันแน่ มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันได้ที่นี่

งาน Full Time และ Part Time ต่างกันยังไง แบบไหนที่ใช่คุณ!?

งาน Full Time คืออะไร มีข้อดีอย่างไร?

             งาน Full Time หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการจ้างงานเต็มเวลา หมายถึง งานที่ผู้ถูกจ้างจะต้องทำอย่างน้อย 38 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยไม่เกิน 5 วันหรือตามแต่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน แต่ต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือหากมีสัปดาห์ที่ทำงาน 6 วัน สัปดาห์ถัดไปต้องทำงานไม่เกิน 4 วัน หากเกินกว่านี้ พนักงานจะต้องได้รับเงินค่าล่วงเวลาหรือ OT เพิ่มเติม แต่หากเป็นงานที่อันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย เช่น ต้องทำใต้น้ำ ใต้ดิน หรือในที่อับอากาศ เวลาปฏิบัติงานจะเหลือไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน หรือไม่เกิน 42 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

             ข้อดีของการทำงานแบบเต็มเวลา

  • มีการกำหนดสวัสดิการ เงินเดือน และวันลาที่แน่นอน
  • มีโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพจากการเลื่อนตำแหน่ง
  • เวลาการทำงานแน่นอน วางแผนล่วงหน้าได้ง่าย
  • มีความมั่นคงสูง ส่งผลให้ทำธุรกรรมและขออนุมัติสินเชื่อต่าง ๆ ได้ง่าย
  • กรณีถูกให้ออกจากงาน จะได้รับเงินชดเชยตามที่กฎหมายระบุไว้

งาน Part Time คืออะไร มีข้อดีอย่างไร?

             งาน Part Time หรือการจ้างงานแบบไม่เต็มเวลา หมายถึง งานที่มีชั่วโมงการทำงานน้อยกว่า 38 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน มีความยืดหยุ่นสูง แต่ก็ต้องมีข้อตกลงระหว่างลูกจ้างและนายจ้างที่ระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับวันและเวลาการทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงาน รวมทั้งเวลาพักรับประทานอาหารอย่างชัดเจน โดยส่วนใหญ่เป็นงานบริการลูกค้า เช่น พนักงานเสิร์ฟ พนักงานร้านสะดวกซื้อ พนักงานขายสินค้า

             ข้อดีของการทำงานแบบไม่เต็มเวลา

  • เป็นช่องทางการหารายได้เสริมในเวลาว่าง ทำได้ทั้งคนวัยทำงาน วัยเรียน และวัยเกษียณ
  • ได้พัฒนาทักษะที่หลากหลาย โดยเฉพาะทักษะการสื่อสาร
  • มีความกดดันและเครียดน้อยกว่าการทำงาน Full Time
  • หากบริหารจัดการเวลาได้ ก็สามารถทำงานหลากหลายประเภทในเวลาเดียวกันได้เช่นกัน
  • แบ่งเวลาให้ครอบครัว เพื่อน หรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ง่ายกว่างาน Full Time
งาน Part Time คืออะไร

สรุปชัด งาน Full Time และ Part Time ต่างกันยังไง?

             รู้แล้วว่างาน Full Time และงาน Part Time คืออะไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง สุดท้ายก็มาถึงคำถามสำคัญว่าแล้วงาน Full Time และ Part Time ต่างกันยังไงบ้าง ซึ่งเราสามารถสรุปข้อแตกต่างให้เห็นภาพสำหรับผู้ที่กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกรูปแบบงานได้ ดังนี้

             • ชั่วโมงการทำงานต่อวัน

             ข้อแตกต่างแรกคือ ชั่วโมงการทำงาน ซึ่งงานเต็มเวลาจะมีชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยที่ 8 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่งานแบบไม่เต็มเวลามีชั่วโมงการทำงานเริ่มต้นที่ 3 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ซึ่งจะทำกี่ชั่วโมงก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้างนั่นเอง

             • เวลาการเข้า-ออกงาน

             เวลาเข้า-ออกงานของการทำงาน Full Time มักเป็นเวลาชัดเจน แม้จะทำงานเป็นกะก็มีระบุไว้ล่วงหน้า ส่วนแบบ Part Time เวลาการเข้า-ออกงานจะค่อนข้างยืดหยุ่น ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้ที่อยากบริหารจัดการเวลาด้วยตัวเองและอยากทำหลาย ๆ งานไปพร้อมกัน

            •  รายได้

             รายได้ของการทำงานแบบ Full Time มักจะจ่ายเป็นรายเดือนและมีอัตราค่าจ้างที่แน่นอน ส่วนการจ้างแบบ Part Time รายได้มักคิดเป็นรายชั่วโมงตามที่ปฏิบัติงานจริง ส่วนจะจ่ายรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน ก็เป็นไปตามที่ตกลงกันตอนจ้างงาน

             • อายุและวุฒิการศึกษาของผู้ปฏิบัติงาน

             งานเต็มเวลามักระบุอายุและวุฒิการศึกษาของผู้ปฏิบัติงานเอาไว้อย่างชัดเจน รวมถึงทักษะต่าง ๆ ที่ต้องมีก่อนเริ่มงาน แต่งานแบบไม่เต็มเวลาสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้สูงอายุที่อยากหารายได้หลังเกษียณก็สามารถทำได้เช่นกัน

             • สวัสดิการ

             สำหรับสวัสดิการของพนักงานประจำและพนักงาน Part Time นั้น เรื่องสิทธิ์วันลาและได้รับเงินชดเชยกรณีถูกให้ออกจากงาน ส่วนใหญ่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่อาจมีสิทธิ์อื่น ๆ ที่ต้องสอบถามกับนายจ้างดูอีกครั้ง เช่น ประกันสุขภาพ การปรับเงินค่าจ้าง เป็นต้น

 ประเภทการจ้างงานที่ควรรู้นอกเหนือจาก Full Time และ Part Time

             นอกจากการจ้างงานแบบเต็มเวลาและไม่เต็มเวลาที่เราพูดถึงกันไปในข้างต้นแล้ว รู้หรือไม่ว่าในโลกของการทำงานยังมีการจ้างงานรูปแบบอื่น ๆ อยู่อีกมากมาย ที่พบมากไม่แพ้แบบ Full Time และ Part Time ได้แก่การจ้างงานแบบ Casual และ Contract 

  • การจ้างงานแบบ Casual เป็นการจ้างงานแบบชั่วคราว มีความยืดหยุ่นสูง แต่มักไม่ได้รับสวัสดิการต่าง ๆ และนายจ้างเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
  • การจ้างงานแบบ Contract เป็นการจ้างงานที่มีระยะเวลาการทำงานระบุไว้ชัดเจน เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างลูกจ้างและองค์กร

             มองหางาน Part Time และงาน Full Time ในองค์กรชั้นนำ ค้นหางานที่ใช่ได้ที่ JOBTOPGUN แหล่งรวมงานคุณภาพ พร้อมระบุข้อมูลที่สำคัญเอาไว้ครบถ้วน เพิ่มโอกาสได้งานด้วยการนำเสนอจุดเด่นของคุณให้โดดเด่นกว่าใครผ่าน Super Resume สามารถใช้งานได้ฟรีที่เว็บไซต์ของเรา หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-853-6999

สมัครงานกับบริษัทชั้นนำทันที สร้าง Super Resume (ใบสมัครงาน) เลย ฟรี!

คำค้นหายอดนิยม

..